-เมื่อตอนไปสวีเดนช่วงเดือนกันยายนได้บอกใว้ว่าได้ไปเยี่ยมคนรู้จักที่เป็นเจ้าของโรงผลิตว๊อดกา จึงคิดว่าน่าจะเล่าการทำว๊อดกาให้ได้รู้กัน ว๊อดกาคือเหล้าขาวที่ทำจากข้าวสาลีเป็นส่วนใหญ่ หรือจากมันฝรั่งซึ่งจะเป็นว๊อดกาที่คุณภาพสูงกว่าจากข้าวสาลี โรงกลั่นที่ไปเยี่ยมมานี้ทำจากวัตถุดิบทั้งสองชะนิด จะขอพูดถึงแต่ที่ทำจากมันฝรั่งเท่านั้น โรงกลั่นนี้มีไร่มันของตัวเอง จะขุดเก็บเมื่อโตได้ขนาดที่พอเริ่มสมบูรณ์ (young potato) จากนั้นเอามาล้างให้สอาด ส่งผ่านสายพานปลอกเปือกและสับเป็นชิ้นเล็กๆนำเข้าหม้อปั่นที่มีอุณหภูมิที่กำหนด จากนั้นใช้ความร้อน(กลั่น)จนแปลงสภาพที่มีแอลกอฮอล การกลั่นให้เป็นว๊อดกาให้มีคุณภาพดีเลิศบั้ลต้องผ่านการกลั่นถึงสามครั้งหรือมากกว่านั้น โรงงานนี้กลั่นสามครั้งเพราะเป็น Premium Vodka ชื่อ Karlssons Gold
-มีข้อมูลจากคุณ Belle สมาชิกคนหนึ่งของเราที่รู้เรื่องว๊อดกาส่งมา จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ให้ได้ทราบกันและขอขอบคุนมาในโอกาศนี้ด้วยตรับ
-''วอดก้า
ก่อนอื่นเราควรรู้จักคำว่าวอดก้า "Vodka" ในภาษารัสเซียเขียน เป็น "Voda" ซึ่งแปลได้ว่า "น้ำ" หรือ "น้ำอมฤตแห่งชีวิต "
มีประวัติว่าวอดก้าถือกำเนิดในโปแลนด์เมื่อศตวรรษที่ 9 ต่อมาไปแพร่หลายไปในประเทศแถบยุโรปตะวันออก และรุ่งโรจน์มีชื่อเสียงที่ประเทศรัสเซียในศตวรรษที่ 14 เมื่อทูตสหราชอาณาจักรเดินทางสู่ไปมอสโก มีการต้อนรับด้วยเครื่องดื่มวอดก้า จากนั้นวอดก้าก็ได้ยกในฐานะเป็นเครื่องดื่มประจำชาติชาติรัสเซีย ซึ่งต่อมาผลิตเพื่อการส่งออกด้วย ผู้รับซื้อชาติแรกที่ถูกบันทึกไว้คือประเทศสวีเดน มีการเซ็นสัญญาซื้อขายใน ค.ศ.1505 หลังจากนั้นทางรัฐบาลสวีเดนได้ทำการผลิตวอดก้าเองเพื่อส่งออกเหมือนกัน
เหล้าวอดก้านั้นถือเป็นของโอท็อปของรัสเซีย รวมถึงโปแลนด์ สวีเดนและฟินแลนด์
โดยทั่วไปแล้ววอดก้าจะใช้วัตถุดิบเช่น ข้าวสาลีหรือมันฝรั่งเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีการนำผลไม้มาเป็นวัตถุดิบเช่น องุ่น สตอเบอร์รี่ เป็นต้น วัตถุดิบเหล่านี้จะนำมาผ่านกระบวนการต้ม กลั่นหลายๆครั้ง และกรองด้วยถ่านหินหรือถ่านไม้ จนได้วอดก้าที่เป็นเหล้าใสเหมือนน้ำ ไม่มีสี ไม่กลิ่น ไม่มีรส จึงเหมาะที่จะเป็นเหล้าหลักในการทำเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล เช่น Bloody Mary ( วอดก้าผสมกับน้ำมะเขือเทศ) Screw Driver ( วอดก้าผสมกับน้ำส้ม ) หรือ Vodka Martini ( วอดก้าผสมมาร์ตินี่ )ที่โด่งดังมากเพราะพระเอก เจมส์ บอนด์ 007 ชอบดื่มเป็นประจำในภาพยนตร์ชุดดัง แต่จริงๆแล้ววอดก้านิยมใช้ดื่มกับน้ำแข็งก่อนอาหารแช่ให้เย็นจัดแล้วดื่มโดยไม่ผสมร่วมกับอาหารที่มีรสจัด เช่น ไข่ปลาคาเวียร์
วิธีการง่ายๆ ที่จะดูว่าวอดก้าชนิดไหนดีหรือไม่ดีนั้น ค่อนข้างที่จะดูยากเนื่องจากการที่วอดก้ามีสีที่ใสเหมือนน้ำ แต่ถ้าดมและชิมเราจะรู้ได้ทันทีว่าวอดก้าชนิดนั้นดีหรือไม่ วอดก้าที่ดีต้องมีกลิ่นที่ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนเกินไป เมื่อจิบแล้วรู้สึกไม่ว่าแอลกอฮอล์ไม่กัดริมฝีปากมากนัก และรสชาดจืด ไม่บาดคอ ที่สำคัญให้อ่านฉลากขวดเพื่อให้ทราบถึงจำนวนครั้งของการกลั่น ยิ่งกลั่นมากครั้งเท่าไหร่ รสและกลิ่นของแอลกอฮอล์จะน้อยลงเท่านั้น วิธีการกลั่นหลายๆครั้งจะนิยมทำในกลุ่มของวอดก้าระดับพรีเมี่ยม วอดก้าโดยทั่วไปนั้นจะกลั่นประมาณ 3 ครั้ง เหล้าขาวบ้านเราจะกลั่นแค่ครั้งหรือ 2 ครั้งเท่านั้น''
You need to be a member of Somsak's Travels Notes + News to add comments!
Join Somsak's Travels Notes + News